พระพุทธรูปที่พระอินทร์ศรีอริยเมตไตรย พระแม่โพธิสัตว์กวนอิม และพระพุทธเจ้าน้อยลงมาสร้างไว้ในโลก

ธรรมะไตรปิฎก  วันที่3กุมภาพันธ์2563

ตอนที่ 43 **ตำนานพระพุทธเจ้าศรีเชียงของ 3 ขั้น**

+ +

 

ในเช้าของวันที่1กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563ณ วัดพระพุทธเจ้าใหญ่ศรีเชียงของ

เมื่อท่านพระยาธรรมิกราช ได้ขึ้นเข้าเฝ้านอบน้อมต่อองค์พระพุทธบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านแล้ว จึงได้นอบน้อมเฝ้าขอฟังธรรม ดังนี้ว่า…

 

“ ข้าแต่องค์พระพุทธบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจ้าขา..

วันนี้ ลูกจะขอเฝ้าฟังธรรมในเรื่องของ ตำนานพระพุทธใหญ่เจ้าศรีเชียงของ3 ขั้น พระพุทธเจ้าค่ะ

เพราะลูกปรารถนาที่จะทราบถึงรายละเอียดความเป็นมาของตำนานของพระพุทธใหญ่เจ้าศรีเชียงของ

 

ขอพระพุทธองค์โปรดทรงเมตตาแสดงธรรมนี้ ให้ลูกได้ฟัง เพื่อลูกจะได้นำไปเผยแผ่ ให้กับทุกๆคน ได้รู้ตาม เข้าใจตามด้วย พระพุทธเจ้าค่ะ..

เพราะวันฉลององค์ใหญ่  พระพุทธเจ้าศรีเชียงของก็ใกล้เข้ามาแล้ว.. ลูกจึงปรารถนาที่จะทราบถึงตำนานขององค์พระหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธเจ้าศรีเชียงของด้วย พระพุทธเจ้าค่ะ “

– – – –

 

ดีแล้วละ พระยาธรรมเอย..ในกฎของธรรมชาตินั้น ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมมีเหตุมีผล – ที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างก่อเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

ความจริงที่มีอยู่.. ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีใครที่จะฝืน หรือทำให้ความจริงนั้น มันกลายเป็นเรื่องอื่น -ตามที่ตนคิด ตามที่ตนจะให้เป็นไปได้!

 

ความจริง ก็คือความจริง +

ทุกสิ่งมีเหตุมีผล ในตัวของมัน +

 

ฉะนั้น พระยาธรรมเอย.. หากเราทำสิ่งใด – เราเป็นผู้รู้เหตุรู้ผลในสิ่งที่ทำ

และทำเช่นนี้อยู่บ่อยๆ เป็นประจำ — เราก็จะเป็นจิตผู้รู้ตื่น รู้แจ้งตามเหตุของทุกสิ่งทุกอย่าง ที่มัน

*เกิดขึ้น- ตั้งอยู่- และดับไป *

 

เมื่อเราเห็นกติกา และเข้าใจกฎเกณฑ์ทุกอย่าง เราย่อม..

–  เป็นผู้พ้นทุกข์

–  เป็นผู้รู้แจ้งโลก

–  เป็นผู้ที่เข้าใจในทุกสรรพสิ่ง

 

พระยาธรรมเอย..การสร้างองค์พระหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธใหญ่เจ้าศรีเชียงของ ก็เช่นเดียวกัน

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น – ย่อมมีเหตุ

เมื่อมีเหตุแล้ว – ก็จะต้องมีผล

เมื่อมีผลแล้ว – ทุกอย่างก็จะต้องดับไป เสื่อมไปตามกาลเวลา เป็นธรรมดาอีก

… เพราะมันคือ กฎแห่งวัฏสงสาร* นี้

 

ลูกเอ๋ย.. ขั้นที่ 1– ของตำนานองค์พระหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธใหญ่เจ้าศรีเชียงของ นั้น

ก่อเกิดด้วยเหตุนี้ จงตั้งใจฟังให้ดีนะ.. พระยาธรรม

 

กาลเวลาผ่านไปยาวนาน กว่าจะมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาตรัสรู้สักพระองค์หนึ่ง ในวัฏสงสารนี้ ดวงจิตทั้งหลาย.. จะต้องเวียนว่ายตายเกิด จมอยู่ใต้อำนาจของกิเลสตัณหา และกฎเกณฑ์ของวัฏสงสารนี้.. โดยไม่หลุดไม่พ้น ไม่เป็นอิสระ !

 

และก็ไม่อาจมีใครฝืนได้จนกว่าจะมีองค์พระพุทธเจ้า ผู้บำเพ็ญบารมีจนเต็ม จนถึงพร้อม – จึงอุบัติบังเกิดขึ้น.. เพื่อที่จะตรัสรู้ รู้แจ้ง เข้าใจ ตามเหตุตามผล

รู้แจ้งตามความจริงของทุกสรรพสิ่งในวัฏสงสารนี้

…จนเป็นผู้อยู่เหนือวัฏสงสาร ตรัสรู้ชอบได้ โดยพระองค์เอง..

 

เห็นหนทางแล้วอย่างแจ่มแจ้ง — จึงค่อยชี้ทางบอกทางแก่ดวงจิต.. ผู้ที่ก็ได้บำเพ็ญบารมีมา เพื่อที่จะแสวงหาทางออกจากทุกข์ เช่นเดียวกันกับองค์พระพุทธเจ้า..

… เพียงแต่ว่าตนก็ยังเสาะแสวงหาทางไม่เจอ !

 

เมื่อเจอ เมื่อพบคำสอนจากพระพุทธองค์– ก็สามารถรู้ตื่น เข้าใจตามได้

และมีดวงจิตที่ตั้งใจจะพ้นทุกข์ตามๆกันไป

จึงได้เรียนรู้พระธรรมคำสอนจากองค์พระพุทธเจ้า – เพื่อหาทางพ้นทุกข์กัน

— ตามกำลังของดวงจิต กลุ่มที่ตั้งใจจะหลุดพ้นจากวัฏสงสาร ++

 

และธรรมคำสอนขององค์พระพุทธเจ้า แต่ละพระองค์.. ก็ไม่ได้อยู่นานจนเป็นกาลเวลาที่ยาวนาน ที่นับไม่ได้

องค์พระพุทธเจ้า ก็บำเพ็ญบารมีของแต่ละพระองค์มา.. มีเวลาเพียงแค่ 3 พันปีบ้าง 5 พันปีบ้าง 8 พันปีบ้าง – แต่มากสุด ก็แค่ 8 พันปี

 

เมื่อหมดรอบของการเผยแผ่พระธรรม หมดเหตุที่องค์พระพุทธเจ้าได้ทำ เพื่อเปิดประตูวัฏสงสารนี้ไว้

— ประตูแห่งพระนิพพานก็ปิดลง คำสอนก็เลือนรางจางหาย ตามกฎของความไม่เที่ยงแท้ในวัฏสงสารนี้ !

 

ฉะนั้น บัดนี้.. จึงเป็นกาลเวลาอันดีงาม ที่มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ถึง 2 พันกว่าปี ถึงกึ่งพุทธกาล ซึ่งองค์พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน มีเวลาในการเผยแผ่ธรรม ถึง 5 พันปี

 

บัดนี้ก็ได้เผยแผ่พระธรรม จนถึงกึ่งพุทธกาลแล้ว..จึงได้วางแผนการเผยแผ่พระธรรมในกึ่งพุทธกาล

โดยให้ดวงจิตที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา เพื่อที่จะให้เป็นองค์แทนดวงธรรมลงสู่โลก เพื่อประกาศพระธรรมในกึ่งพุทธกาลแทน..

— จึงได้ให้ท่านพระยาธรรมิกราช ลงมาสู่โลก.. เพื่อเผยแผ่พระธรรม **

 

ทีนี้ เมื่อมีเหตุมีผล คือ การที่องค์พระพุทธเจ้า 1 พระองค์ เกิดขึ้น- ตรัสรู้- สอนสั่งธรรมถึงกึ่งพุทธกาล

จึงได้รอบได้เวลาในการวางแผนการเผยแผ่ธรรม – ถึงกึ่งพุทธกาล..

— จึงได้ให้พระยาธรรมิกราชลงมา เพื่อที่จะมาเผยแผ่พระธรรมในกึ่งพุทธกาล ++

 

และเมื่อพระยาธรรมิกราชลงสู่โลก ย่อมแน่นอนว่า จะต้องมีการเตรียมรองรับการเผยแผ่ -บนโลกใบนี้ เพื่อที่พระธรรมนั้น จะได้เผยแผ่กว้างไกลออกไป

จึงเข้าสู่ขั้นที่ 2 ของการสร้างองค์พระใหญ่ หรือเหตุผล ตำนานในการสร้างองค์พระใหญ่

 

เมื่อพระยาธรรมิกราช พุทธเจ้าน้อย จะเสด็จลงสู่โลก.. จึงได้มีการเตรียมการวางแผน

โดยให้องค์พระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีบารมีมากที่สุดในจักรวาลนี้ ในยุคนี้- ซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป *องค์พระศรีอริยเมตไตรย*

 

จึงได้ให้ดวงจิตแห่งองค์พระศรีอริยเมตไตรยพระโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์กวนอิม คือ พระแม่ผู้ดูแลกฎเกณฑ์แห่งวัฏสงสาร และพระโพธิสัตว์หลายพระองค์ วางแผนการเพื่อลงมาเตรียมรองรับการอุบัติบังเกิดแห่งพระยาธรรมิกราช  และเพื่อช่วยกันเผยแผ่พระธรรม

 

จึงได้มีดวงจิตขององค์พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย.. ทำงานภาคของกายทิพย์ และกายมนุษย์ เพื่อจัดเตรียมการรองรับ

 

ฉะนั้น พระยาธรรมเอ๋ย..  หลวงพ่อพระอาจารย์ของลูกนั้น จึงได้เป็นบุคคลผู้แทนในกายหยาบ

ที่เป็นผู้แทนจากองค์พระศรีอริยเมตไตรย พระโพธิสัตว์ – ผู้ที่จะมาตรัสรู้ข้างหน้าโน้น.. ++

และพระโพธิสัตว์หลายๆพระองค์เสด็จลงมา – เพื่อจัดเตรียมการจัดการต้อนรับการอุบัติบังเกิด

.. และช่วยกันเผยแผ่พระธรรม ให้สืบต่อไป

 

ทีนี้ หลวงพ่อพระอาจารย์ จึงได้สร้างบารมีมาทีละจุด ทีละที่ – เพื่อปรับพื้นฐาน รากฐาน การบำเพ็ญบารมีแห่งตน ในชาตินี้

จนมาถึงสถานที่แห่งนี้.. ซึ่งก็ตรงกับเวลาที่ลูกลงสู่โลก คือ 9 ปี ที่ผ่านมา

 

หลวงพ่อพระอาจารย์ จึงได้สร้างองค์พระใหญ่พระองค์นี้ ให้ก่อเกิดขึ้น – ด้วยการเริ่มต้น..

 

เมื่อลูกหาทางลงสู่โลกได้แล้ว.. ลูกจึงได้เสาะแสวงหาทางของตน จนมาพบกับหลวงพ่อพระอาจารย์ ได้มาฝากตัวเป็นศิษย์ และศึกษาเรียนรู้สิ่งที่ลูกนั้นไม่รู้ คือ ความรู้ที่จะอยู่คู่กับโลกได้ เพราะธรรมก็ต้องอยู่คู่กับโลกด้วย *

 

ลูกจะรู้แต่ธรรม.. แต่ไม่รู้โลก เชื่อมต่อกันไม่ได้ – ก็ไม่ได้ !

จึงเข้ามาศึกษา แล้วพากันร่วมกันสร้างองค์พระพุทธเจ้าศรีเชียงของ – ด้วยการเผยแผ่พระธรรม

 

และทุกคน เมื่อฟังธรรม เข้าใจในธรรมแล้ว.. จึงได้ช่วยกัน ร่วมกันสร้างองค์พระใหญ่ พระพุทธเจ้าศรีเชียงของขึ้นมา – จากพระธรรมคำสอน จากพลังศรัทธาจากคำสอน

และร่วมกันสร้าง ร่วมกันทำ..

 

จนบัดนี้.. องค์พระใหญ่ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ตามพระประสงค์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะให้ลูกนั้นก่อเกิดเพื่อสืบทอดพระธรรม

โดยการให้ลูกนั้นมาหาให้เจอกับองค์พระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว์ – ผู้จะมาตรัสรู้ ผู้บำเพ็ญเพียรบารมี ที่ก่อเกิดขึ้นเพื่อรองรับการช่วยเผยแผ่ธรรม และพระโพธิสัตว์กวนอิม

พระโพธิสัตว์หลายพระองค์ ผู้ที่ช่วยค้ำหนุน ทั้งภาคกายทิพย์ และกายหยาบ เพื่อให้พระธรรมได้ก่อเกิดขึ้น

 

และบัดนี้..

พระธรรมก็ได้ก่อเกิดขึ้น

คัมภีร์กึ่งพุทธกาลก็รวบรวมสำเร็จดีแล้ว

และองค์พระพุทธเจ้าศรีเชียงของ ก็เสร็จสมบูรณ์

กลายเป็นองค์พระธรรมิกราช ในใจของลูก

และกลายเป็นองค์พระธรรมิกราช ในสายธรรมสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ

— เพื่อเผยแผ่พระธรรมให้กึกก้องสืบต่อไป ++

 

ฉะนั้น..ตำนานองค์พระใหญ่ ในขั้นที่ 2 นี้ – จึงเป็นการสร้างองค์พระ-พระองค์นี้ก่อเกิดขึ้นจาก..

การรวบรวมพระธรรมคำสอน และการศรัทธาในพระธรรมคำสอน

และรวบรวมจนสร้างสำเร็จ

สำเร็จแล้ว.. ก็เพื่อหนุนพระธรรมคำสอน ให้กว้างไกลต่อไป..

 

พระยาธรรมเอ๋ย..  ทีนี้ ก็เข้าสู่ขั้นที่ 3 ของตำนานพระพุทธเจ้าใหญ่ศรีเชียงของ

พระพุทธเจ้าใหญ่ศรีเชียงของ เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว..

*พลังบารมีก็จะค้ำหนุน องค์พระมหากษัตริย์ไทย แผ่นดินไทย

เพื่อที่จะค้ำหนุนพระบารมีให้ประเทศชาตินี้ อยู่เย็นเป็นสุข*

— ตั้งแต่เหนือจรดใต้ จะถูกปกคลุมไปด้วยพลังพุทธบารมี ++

 

แผ่นดินไทย.. จะเป็นแผ่นดินธรรม

เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพระธรรมคำสอน

เป็นที่รองรับพระธรรมในกึ่งพุทธกาล ที่จะก่อเกิด

และต่อไป.. ก็จะได้เป็นสถานที่ ที่อุดมสมบูรณ์ เข้าสู่ยุคแห่งความเจริญมาก*

 

พระยาธรรมเอย..  และการที่บารมีขององค์พระใหญ่ ได้ก่อเกิดขึ้นแล้ว.. ก็ยังแผ่ไปสู่การล้างวิบากกรรมของประเทศชาติ โลก จักรวาล วัฏสงสาร – ด้วยพระธรรมคำสอน

 

เพื่อทุกสิ่งทุกอย่าง เข้าสู่ความอุดมสมบูรณ์ เป็นสุข

และยังรวบรวมคุณงามความดี -ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.. ด้วยธรรมคำสอน ที่ถูกต้องตามหลักธรรม ที่ก่อเกิดขึ้นแล้วในกึ่งพุทธกาล

 

รวมถึง เมื่อลูกนั้น..ได้ถวายองค์พระใหญ่ พระพุทธเจ้าศรีเชียงของ – เป็นการทำทานบารมีครั้งยิ่งใหญ่ ในสายธรรม.. เพื่อให้สายธรรมนี้ได้ก่อเกิดสืบทอดต่อไป -ในแดนธรรมแห่งใหม่สวนธรรมิกราช จ.สุรินทร์

ภาคอีสาน ก็จะเป็นจุดรองรับการเผยแผ่พระธรรมในตอนต่อไป ..

 

เช่นนี้ละ พระยาธรรม.. คือ ขั้นที่ 3 – แห่งการสร้างตำนานองค์หลวงพ่อใหญ่

ก่อเกิดขึ้นด้วยการจัดการวางแผนการเผยแผ่พระธรรม ในกึ่งพุทธกาล ว่า..

จะต้องมีองค์พระใหญ่พระองค์นี้ ก่อเกิดด้วยพระธรรม

เมื่อสมบูรณ์แล้ว จะกลายเป็นพระธรรมิกราช ที่จะค้ำหนุนสายธรรมนี้ ให้สืบทอดธรรมต่อไป..

 

จึงได้ให้พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์วางแผนการเผยแผ่.. โดยแยกจิตมาเป็นทั้งกายหยาบ และทำงานภาคกายทิพย์ ช่วยกันสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ – พร้อมด้วยพระธรรม ที่ลูกนั้นสามารถน้อมนำมา จนสมบูรณ์ในกึ่งพุทธกาล

* เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของประเทศชาติบ้านเมือง โลก // และความอุดมสมบูรณ์ ที่จะเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรือง

*  และการเผยแผ่พระธรรมคำสอนที่สืบต่อไป..ให้กว้างไกล

*  ให้ดวงจิตทั้งหลาย.. ได้น้อมอนุโมทนาบุญ

 

นี่ละ พระยาธรรม..

คือ เหตุที่สร้างองค์พระใหญ่ พระพุทธเจ้าศรีเชียงของ

คือ ผลปรากฏขึ้นแล้ว

คือ องค์พระใหญ่ พระพุทธเจ้าศรีเชียงของ ที่สมบูรณ์

คือ พระธรรมิกราช และสายธรรมสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ

คือ คัมภีร์ในกึ่งพุทธกาล

คือ คำสอนที่รวบรวมจนสมบูรณ์

และคือ การที่จะได้เผยแผ่สืบต่อไป ให้ดวงจิตทั้งหลาย.. ได้เรียนรู้ในธรรมนี้ ให้กว้างไกลต่อไป..

 

ทำเหตุ เริ่มต้นให้ดี

และเมื่อเหตุนั้น -เกิดเป็นผลที่ดีแล้ว..

ก็เอาผลที่ดีหว่านต่อ.. เพื่อผลที่ดีจะก่อเกิดขึ้น เติบโตขึ้นกว่าเดิม เจริญยิ่งๆขึ้นไป..

 

เช่นนี้ละ พระยาธรรม..  ลูกพอจะเข้าใจบ้างแล้วหรือยังเล่า ตำนานองค์พระใหญ่ พระพุทธเจ้าศรีเชียงของ 3 ขั้น 3 เหตุผล 3 ตอน ในเหตุที่ได้สร้างขึ้นมา

 

+ +

พระยาธรรม ::สาธุเจ้าค่ะ

ลูกพอจะเข้าใจแล้วพระพุทธเจ้าค่ะว่า..

— พระพุทธเจ้าใหญ่ สร้างขึ้นมาเพื่อค้ำหนุน รองรับการเผยแผ่ธรรมในกึ่งพุทธกาล

–พระโพธิสัตว์พระศรีอริยเมตไตรยและโพธิสัตว์หลายพระองค์ ช่วยกันทำให้ดำเนินไป และก่อเกิดขึ้นมาได้..

— และองค์พระศรีเชียงของก็ก่อเกิดด้วยพระธรรมในกึ่งพุทธกาล

— และเพื่อค้ำหนุน ปรับพื้นที่บนโลกใบนี้ ปรับภพภูมิต่างๆ – รองรับพระธรรมที่ก่อเกิดขึ้น ในกึ่งพุทธกาล.. เพื่อเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญ – อีกยุคที่มีพระธรรมคำสอนก่อเกิดขึ้น อย่างอุดมสมบูรณ์

— ให้จิตทั้งหลาย..ได้น้อมอนุโมทนาบุญร่วมกัน

 

… พอจะเข้าใจแล้วพระพุทธเจ้าค่ะ

 

กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ ที่ทรงเมตตาแสดงธรรมนี้ให้ลูกได้ฟังนะเจ้าคะ

วันนี้ ลูกต้องกราบขอลาก่อน เอาไว้ลูกจะมาเฝ้าฟังธรรมใหม่ พระพุทธเจ้าค่ะ…

 

สาธุ